Aged image of dog eating next to box of Purina Dog Chow
ดูแลสัตว์เลี้ยง เติมเต็มชีวิต

นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง เพียวริน่า เป็นผู้บุกเบิกนวัตกรรมด้านโภชนาการ โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้สุนัขและแมวมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและอยู่กับเรานานขึ้น

เพียวริน่า ที่เรารู้จักกันในปัจจุบันเกิดจากการรวมตัวของธุรกิจดูแลสัตว์เลี้ยงที่เป็นที่ยอมรับ 3 ราย ได้แก่ เพียวริน่า (Purina), Spillers และ Friskies แต่ละธุรกิจล้วนมีมรดกด้านความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ของตน และมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเพียวริน่า ให้กลายเป็นผู้นำด้านโภชนาการสัตว์เลี้ยงระดับโลก

William Danforth
1894
เปิดศูนย์วิจัยโภชนาการสัตว์เลี้ยงในเกรย์ ซัมมิต รัฐมิสซูรี สหรัฐอเมริกา
William H. Danforth ก่อตั้งเพียวริน่า เมื่อปี 1894 เริ่มจากการผลิตอาหารเพื่อสัตว์ในฟาร์ม แต่เขามีเป้าหมายที่สูงกว่านั้นคือการพัฒนาบริษัทที่ผลิตอาหารสัตว์ที่มีโภชนาการชั้นดีจนถึงดีเยี่ยม และตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของสัตว์ในรูปแบบที่สะดวกต่อการใช้งาน
Rolly Dogs
1926
ศูนย์วิจัยแห่งแรก เพื่อโภชนาการสำหรับสุนัขโดยเฉพาะ
เพียวริน่า เปิดศูนย์วิจัยโภชนาการสัตว์เลี้ยงในเกรย์ ซัมมิต รัฐมิสซูรี สหรัฐอเมริกา โดยในปีนี้เราใช้แนวทางวิทยาศาสตร์ในการวิจัยความต้องการทางโภชนาการของสัตว์เลี้ยง โดยศึกษางานวิจัยด้านการให้อาหารและการทดลองด้านโภชนาการ
Purina Poster
1957
รายแรกที่ผลิตอาหารเม็ดสำหรับสุนัข
เพียวริน่า เป็นแบรนด์แรกที่นำเทคโนโลยีการอัดเม็ดอาหาร (Extrusion) มาใช้ในกระบวนการผลิตอาหารสุนัข ข่วยให้อาหารได้รับการผลิตด้วยอุณหภูมิที่เหมาะสม พร้อมยังคงคุณค่าสารอาหาร ได้อาหารที่ย่อยง่าย รสชาติอร่อย กลายเป็นอาหารแห้งที่มีรูปทรงเฉพาะ ที่เราเรียกกันว่า "เม็ดอาหาร"
Cat food with Taurine
1961
รายแรกที่ผลิตอาหารแมวที่เพิ่ม "ทอรีน"
PURINA เป็นผลิตภัณฑ์แรกที่เพิ่ม “ทอรีน” ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่จำเป็นลงในอาหารแมว การขาดทอรีนอาจส่งผลให้เกิดภาวะผิดปกติต่าง ๆ เช่น จอประสาทตาเสื่อม และภาวะหัวใจโต
Cat and Dog
1993
คิดค้นระบบประเมินสัดส่วนของสัตว์เลี้ยง
เพียวริน่า คิดค้นระบบประเมินสัดส่วนของสัตว์เลี้ยงเบื้องต้น (Body Condition Score หรือ BCS) ซึ่งเป็นระบบแรกที่ใช้กันอย่างแพร่หลายและได้รับการรับรองทางวิทยาศาสตร์ เป็นวิธีง่ายๆ ในการประเมินสัดส่วนของไขมันในร่างกาย ใช้บ่งชี้สัดส่วนมาตรฐานสำหรับสัตว์เลี้ยง ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้ได้กับทุกขนาดสายพันธุ์และน้ำหนักตัว
Canine Genome
1999
DNA Distribution Centre
เพียวริน่า ก่อตั้งศูนย์ DNA Distribution Centre ในสุนัข เพื่อสนับสนุนนักวิจัยในการศึกษาด้านพันธุกรรมของสุนัข
Cat licking paws picture
2000
รายแรกที่คิดค้นสูตรอาหารโปรตีนสูง คาร์โบไฮเดรตต่ำ สำหรับแมวที่เป็นโรคเบาหวาน
เพียวริน่า เป็นผู้นำในการคิดค้นสูตรอาหารแมวที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำและโปรตีนสูง ซึ่งช่วยให้แมวที่เป็นเบาหวานถึง 89% ลดความต้องการอินซูลินได้ 33% จนถึงไม่ต้องใช้อินซูลินอีกต่อไป นอกจากนี้เพียวริน่ายังเป็นแบรนด์แรกที่นำใยอาหารมาในอาหารแมว เพื่อช่วยจัดการปัญหาก้อนขน ช่วยให้ก้อนขนสามารถเคลื่อนผ่านทางเดินอาหารได้อย่างปลอดภัย
Men Shaking Hands
2001
Nestle S.A. ทำการควบรวมกิจการกับเพียวริน่า
หลังจากเนสท์เข้าซื้อกิจการอาหารสัตว์ฟริสกี้ส์ (Friskies) ในปี 1985 และ Spillers ในปี 1998 เนสท์เล่ ได้ขยายธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงอย่างต่อเนื่อง ด้วยการควบรวมกิจการกับเพียวริน่า การรวมตัวของ 2 แบรนด์ชั้นนำระดับโลกนี้ได้สร้างผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่งและเสริมกันอย่างลงตัว พร้อมนำความรู้และความเชี่ยวชาญทางวิทยาศาสตร์จากทั้งเนสท์เล่และเพียวริน่ามาผสานกัน ให้กลายเป็นหนึ่งในผู้นำระดับโลกด้านวิทยาศาสตร์เพื่อการดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยง
In the lab
2004
รายแรกที่ใช้โภชนพันธุศาสตร์ (Nutrigenomic) เพื่อช่วยดูแลโรคในสัตว์เลี้ยง
ในภาวะข้อเสื่อม พบว่ายีนหลายชนิดทำงานผิดปกติ ส่งผลให้เกิดการอักเสบและสร้างเอนไซม์ที่ทำลายข้อ เพียวริน่าค้นพบปริมาณกรดโอเมก้า-3 ที่เหมาะสม ซึ่งช่วยเสริมการเคลื่อนไหวให้ดีขึ้น งานวิจัยทางคลินิกยืนยันว่าโภชนบำบัดนี้ ช่วยลดอาการจากข้อเสื่อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Colostrum
2005
รายแรกที่ใช้ สารสกัดจากนมน้ำเหลือง (Colostrum) ในการเสริมภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติในลูกสุนัขและแมว
นักวิทยาศาสตร์ของเพียวริน่า เป็นรายแรกที่แสดงห้เห็นว่า การเติมสารสกัดจากนมน้ำเหลืองในอาหารสัตว์เลี้ยง ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันทั้งในระบบทางเดินอาหารและทั่วร่างกาย งานวิจัยยังพบว่าสารสกัดจากนมเหลืองยังช่วยส่งเสริมไมโคไบโอมในลำไส้ ให้แข็งแรงและมีความสมดุล
Purina Institute
2018
ก่อตั้งสถาบัน Purina Institute
ด้วยพื้นฐานทางวิทยาศาตร์ที่แข็งแกร่ง เพียวริน่า ได้ก่อตั้งสถาบัน Purina Institute ซึ่งเป็นองค์กรระดับโลก ที่มีความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนงานวิจัยด้านโภชนาการ เพื่อให้สัตว์เลี้ยงมีคุณภาพชีวิตที่ดี สุขภาพแข็งแรงยืนยาวยิ่งขึ้น
Purina Institure ยังมีบทบาทในการยกระดับความสำคัญของโภชนาการสัตว์เลี้ยงในวงการสัตวแพทย์ เพื่อกระตุ้นห้เกิดบทสนทนากับเจ้าของ เกี่ยวกับควาสำคัญของโภชนาการเชิงวิทยาศาสตร์ ที่มีผลต่อสุขภาพโดยรวมของสัตว์เลี้ยง