สุนัขอลาสกัน มาลามิวท์

สุนัขอลาสกัน มาลามิวท์มีหน้าตาคล้ายหมาป่า เป็นสุนัขสายพันธุ์ใหญ่ รูปร่างสง่างามและมีลักษณะเฉพาะของสายพันธุ์สปิตซ์ คือ หางม้วนโค้งไปถึงหลัง ขนหนา หูตั้ง และโครงหน้าคล้ายสามเหลี่ยมกลับหัว สุนัขอลาสกัน มาลามิวท์ เพศผู้หากโตเต็มวัยจะสูง 64-71 ซม. ส่วนเพศเมียจะสูง 58-66 ซม. และหนักประมาณ 38-56 กก. ขนของสุนัขพันธุ์นีมีหลากสีหลายเฉด ตั้งแต่สีขาวหรือเทาอ่อนไปจนถึงสีดำจากสีทองไปจนถึงสีแดงและสีเงิน พร้อมลายต่าง ๆ

 

The need-to-know

 

  • สุนัขเหมาะสำหรับเจ้าของที่มีประสบการณ์เลี้ยงสุนัข
  • ต้องฝึก
  • ชอบเดินออกกำลังกายอย่างหนัก
  • ชอบเดินมากกว่า 2 ชั่วโมงต่อวัน
  • สุนัขขนาดใหญ่
  • น้ำลายไหลได้บ้าง
  • ต้องดูแล/ตัดขนสุนัขวันเว้นวัน
  • สายพันธุ์ที่ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้
  • สุนัขส่งเสียงเห่ามากเป็นพิเศษ
  • สุนัขเฝ้าบ้าน ต้องเห่าและเตือน
  • อาจต้องฝึกให้อยู่ร่วมกับสัตว์เลี้ยงตัวอื่น
  • อาจต้องฝึกให้อยู่ร่วมกับเด็ก
อายุเฉลี่ย:
12–15 ปี
น้ำหนัก:
38–56 กิโลกรัม
ส่วนสูง:
58–71 เซนติเมตร
สีขน:
สีขาวคู่สีเทาอ่อนจนถึงดำ และสีทองออกไรแดงไปจนถึงน้ำตาลเข้ม พร้อมแต้มตามตัว
ขนาดตัว:
ขนาดใหญ่
ชื่อกลุ่มคนเลี้ยงสุนัข:
สำหรับทำงาน
Personality

ถึงสุนัขอลาสกัน มาลามิวท์จะดูเหมือนหมาป่า แต่มีนิสัยน่าเอ็นดูและเป็นมิตร อาจไม่เหมาะกับมือใหม่หัดเลี้ยงสุนัข เนื่องจากเป็นสายพันธุ์ที่ชอบขุดและเห่าหอน มีสัญชาตญาณในการล่าสูง โดยเฉพาะกับเหยื่อที่ตัวเล็กอย่าง กระรอก แมว และสุนัขขนาดเล็ก จึงจำเป็นที่จะต้องฝึกให้เขาเข้าสังคมตั้งแต่เนิ่น ๆ และฝึกทักษะอื่น ๆ อย่างต่อเนื่องไปตลอดชีวิต รวมถึงการฝึกเรียกให้มาหาด้วย

 

History and Origins

ประเทศต้นกำเนิด: สหรัฐอเมริกา

 

ชนเผ่าเร่ร่อน “อินูอิต” ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอลาสกา หรือที่เรียกว่าชาว “มาเลมุตส์” (Mahlemuts) นำสุนัขสายพันธุ์นี้มาช่วยลากของหนักในสภาพอากาศที่โหดร้ายและเป็นเพื่อนคู่ใจในการล่าสัตว์ สุนัขอลาสกัน มาลามิวท์ มีบรรพบุรุษเดียวกันกับสุนัขสายพันธุ์อื่นในแถบขั้วโลก เช่น ซามอยด์ และไซบีเรียนฮัสกี แต่สุนัขพันธุ์นี้ไม่ได้เกิดมาเพื่อแข่งขันด้านความไว แต่เป็นด้านพละกำลัง สุนัขอลาสกัน มาลามิวท์มีขนหนาสองชั้น มีร่างกายกำยำแข็งแกร่งและอดทน จึงไม่แปลกที่สุนัขพันธุ์นี้จะช่วยลากหรือบรรทุกของในการเดินทางแถบขั้วโลกได้

Nutrition and Feeding

สุนัขสายพันธุ์ใหญ่ ย่อมต้องการอาหารมื้อใหญ่และสารอาหารที่สมดุล มีแร่ธาตุและวิตามินที่ต่างไปจากอาหารของสายพันธุ์ขนาดเล็ก สุนัขอลาสกัน มาลามิวท์มักมีอาการท้องอืดและปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร การให้สุนัขกินน้อยลงแต่บ่อยครั้งยิ่งขึ้นอาจช่วยลดความเสี่ยงของอาการเหล่านี้ได้

 

Exercise

สุนัขอลาสกัน มาลามิวท์ต้องได้ออกกำลังกายอย่างน้อย 2 ชั่วโมงต่อวัน สุนัขพันธุ์นี้ชอบดึง จึงต้องฝึกเดินตามสายจูงแต่เนิ่น ๆ และควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างหนักช่วงอากาศร้อน

 

Other Information

สุขภาพและปัญหาที่มักพบ

 

สุนัขอลาสกัน มาลามิวท์ ก็เหมือนสุนัขอีกหลายสายพันธุ์ที่อาจมีปัญหาตาตามกรรมพันธุ์ และป่วยเป็นโรคข้อสะโพกเสื่อม จึงควรตรวจสุขภาพตาและสะโพกของสุนัขก่อนผสมพันธุ์

 

พื้นที่ในการเลี้ยงสุนัข

 

บ้านหลังใหญ่พร้อมสวนที่มีรั้วรอบขอบชิดเป็นที่ที่เหมาะกับสุนัขอลาสกัน มาลามิวท์มาก เพราะสามารถวิ่งเล่นได้ทุกวัน สุนัขพันธุ์นี้อาจจะไม่เหมาะกับการเลี้ยงในเมือง เพราะมักจะชอบหอน จะให้ดีควรเลี้ยงในบ้านที่อยู่ห่างไกลจากบ้านคนอื่น ๆ

 

การฝึกสุนัข

 

เพราะด้วยขนาดตัวที่ใหญ่ สุนัขพันธุ์นี้จำเป็นต้องได้รับการฝึกพื้นฐาน เพราะสุนัขอลาสกัน มาลามิวท์มีสัญชาตญานการลากเลื่อนอยู่มาก ดังนั้นการพาเดินต้องให้สุนัขนำและต้องใช้สายแบบคล้องตัวเพื่อจะได้หยุดสุนัขได้ในเวลาที่ต้องการ การเดินเล่นแบบทั่ว ๆ ไปเป็นสิ่งสุนัขอลาสกัน มาลามิวท์รู้สึกเฉย ๆ เพราะสุนัขพันธุ์นี้ต้องการการวิ่งและฝึกเล่นกีฬาอย่าง Canicross (วิ่งทางไกลพร้อมเจ้าของ) เพื่อปลดปล่อยพฤติกรรมดั้งเดิมของสุนัขสายพันธุ์นี้ สามารถพูดได้เลยว่าสุนัขอลาสกัน มาลามิวท์ต้องคู่กับเจ้าของที่กระตือรือร้นพร้อมให้สุนัขวิ่งออกกำลังไปด้วยกัน การฝึกให้สุนัขมาหาเวลาเรียกก็สำคัญมาก ๆ ซึ่งควรสอนและฝึกให้สุนัข แต่อย่าคาดหวังมากเวลาที่ออกไปข้างนอกแล้วสุนัขเจอเข้ากับกระรอก เพราะถ้าถึงเวลานั้นจะพูดอะไรไปสุนัขก็ไม่ได้ยินแล้ว หากต้องเลี้ยงสุนัขอลาสกัน มาลามิวท์นี้ร่วมกับสัตว์อื่น ควรฝึกให้เข้าสังคมแต่เนิ่น ๆ และควรจับตาดูแลตลอดถึงจะผ่านการฝึกก็ตาม

 

การอยู่ร่วมกับเด็กของสุนัข

 

แม้สุนัขส่วนใหญ่จะเป็นมิตรกับเด็ก แต่ทั้งสุนัขอลาสกัน มาลามิวท์และเด็กจะต้องได้รับการฝึกให้เคารพซึ่งกันและกัน ถึงจะอยู่อยู่ร่วมกันได้อย่างปลอดภัย อย่างไรก็ตามไม่ควรปล่อยให้เด็กเล็กและสุนัขอยู่ด้วยกันตามลำพัง ควรเฝ้าระวังทุกครั้งที่เด็กเล่นกับสุนัข

 

รู้หรือไม่

 

สุนัขอลาสกัน มาลามิวท์กับไซบีเรียน ฮัสกี้มีส่วนสำคัญกับเหตุการณ์ Serum Run ปี ค.ศ. 1925 ซึ่งสุนัขสองสายพันธุ์นี้นับ 150 ตัวได้ทำการขนยาปฏิชีวนะสำหรับรักษาโรคคอตีบไปทั่วรัฐอลาสก้าเป็นระยะทางกว่า 1000 กิโลเมตรในเวลาเพียง 5 วัน ช่วยเหลือชาวเมือง Nome และพื้นที่ข้างเคียงจากวิกฤติโรคระบาด ในสงครามโลกครั้งที่ 1 มีการใช้สุนัขอลาสกัน มาลามิวท์ 450 ตัวขนส่งเสบียงไปให้กองทัพฝรั่งเศสที่ประจำอยู่ตามป้อมบนภูเขา ก่อนหน้านี้มีการใช้สุนัขพันธุ์นี้เพื่อขนส่งจดหมาย และเสบียงให้กับกลุ่มคนที่บุกเบิกอลาสก้าในช่วงแรก ๆ ในช่วงยุคตื่นทอง ก็มีการใช้สุนัขอลาสกัน มาลามิวท์ในการขนส่งอาหารและสิ่งของจำเป็นตามเส้นทางต่าง ๆ ในหุบเขา ยังมีการใช้สุนัขพันธุ์นี้เพื่อดมหากับระเบิด ขนอาวุธ และรับหน้าที่เป็นสุนัขค้นหาและช่วยเหลือผู้บาดเจ็บในสงครามโลกครั้งที่ 2