ปอมเมอเรเนียน (Pomeranian)

ปอมเมอเรเนียน (Pomeranian) สุนัขตัวเล็กหัวใจไม่เล็กและเคล็ดลับในการดูแลสุขภาพ
ทำความรู้จักปอมเมอเรเนียน (Pomeranian)
ปอมเมอเรเนียน (Pomeranian) เป็นสุนัขที่จัดอยู่ในกลุ่ม Toy Group แม้ว่าจะมีขนาดตัวเล็กแต่ปอมเมอเรเนียนกลับครองใจเจ้าของผู้เลี้ยงมาอย่างยาวนาน แถมยังเป็นสายพันธุ์สุดโปรดของทั้งเจ้าของอย่างเราและเชื้อพระวงศ์ชั้นสูง แถมประวัติของสุนัขสายพันธุ์นี้ยังมีความน่าสนใจไม่แพ้สายพันธุ์ไหน ด้วยขนที่ฟูดูนุ่มน่ากอด หน้าตาจิ้มลิ้ม มีความเป็นมิตร น่ารักมีชีวิตชีวา ขนาดตัวที่แสนกะทัดรัด ช่างเอาอกเอาใจ แอคทีฟแสนกระตือรือร้น และเก่งไม่แพ้สุนัขสายพันธุ์ไหนในสนามประลองความสามารถก็เล่นทำได้ไปเสียหมดทุกเรื่องขนาดนี้ มิน่าล่ะทำไมใครๆ ก็เรียกปอมเมอเรเนียนว่าเป็นสุนัขตัวเล็กแต่ความสามารถรอบด้าน

 

The need-to-know

 

  • สุนัขเหมาะสำหรับเจ้าของที่ไม่เคยเลี้ยงสุนัขมาก่อน
  • ต้องการการฝึกขั้นพื้นฐาน
  • ชอบเดินเบา ๆ
  • ชอบเดินวันละครึ่งชั่วโมง
  • สุนัขขนาดเล็กจิ๋ว
  • น้ำลายไหลได้บ้าง
  • ต้องดูแล/ตัดขนสุนัขทุกวัน
  • สายพันธุ์ที่ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้
  • สุนัขส่งเสียงเห่ามากเป็นพิเศษ
  • สุนัขเฝ้าบ้าน ต้องเห่าและเตือน
  • เข้ากันกับสัตว์อื่นได้ดี
  • สุนัขครอบครัวที่ดี
อายุเฉลี่ย:
12–16 ปี
น้ำหนัก:
1.8–3 กิโลกรัม
ส่วนสูง:
18–30 เซนติเมตร
สีขน:
White, black, brown, blue, red, orange, beaver, cream, white, merle, parti-coloured, sable
ขนาดตัว:
ขนาดเล็ก
ชื่อกลุ่มคนเลี้ยงสุนัข:
ทอย
Personality

ปอมเมอเรเนียนจะมีน้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ 1.3-3.1 กิโลกรัม และจัดว่าเป็นสุนัขที่มีขนาดตัวเล็กที่สุดในตระกูลสปิทซ์ (โดยมีญาติๆ เป็นสายพันธุ์ซามอยด์ อลาสกัน มาลามิว และ นอร์วิเจียน เอลก์ฮาวด์) แต่ความนิยมในสุนัขสายพันธุ์นี้ไม่ได้เล็กไปตามขนาดตัว โดยเฉพาะเมื่อปอมเมอเรเนียน กลายเป็นสุนัขตัวโปรดของพระราชินีวิกตอเรีย (อ่านเพิ่มเติมที่ ประวัติสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียน)

 

แม้จะน่ารัก มีขนสวย ฉลาด และแสนภักดีต่อครอบครัวขนาดไหน แต่อย่าปล่อยให้ความน่ารักหลอกคุณว่าสุนัขสายพันธุ์นี้จะมาคลอเคลียคุณตลอดเวลาเพราะปอมเมอเรเนียนก็มีความอินดี้ไม่ใช่เล่น แถมยังมีความขี้สงสัยเป็นที่สุด และถึงจะมีขนาดตัวเล็ก แต่เสียงเห่าของปอมเมอเรเนียนดังไม่แพ้

 

ใครที่ต้องการจะสอนหรือฝึกปอมเมอเรเนียน บอกเลยว่าคุณสามารถทำได้ แต่ต้องอาศัยความสม่ำเสมอและอดทนในการฝึกหน่อย เพราะถ้าเจ้าของไม่สามารถสร้างความสัมพันธ์กับปอมเมอเรเนียนในฐานะเจ้านายได้ สุนัขสายพันธุ์นี้ก็พร้อมที่จะเป็นนายคุณ และอาจจะสร้างพฤติกรรมน่าปวดหัวให้กับเจ้าของได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

 

ปอมเมอเรเนียนจัดว่าเป็นสุนัขที่มีพลังงานล้น ชอบที่จะออกไปเดินเล่นข้างนอก รักที่จะเชิดหน้าให้ดูสง่างาม เจอผู้คนใหม่ๆ และสำรวจโลกด้วยการดมฟุดฟิด และความมีพลังงานเชิงบวกของสุนัขสายพันธุ์นี้ ทำให้ปอมเมอเรเนียนเหมาะที่จะเป็นสุนัขที่ช่วยฟื้นฟูผู้ป่วย ผู้สูงอายุที่อยู่ที่บ้าน

 

ขนาดของปอมเมอเรเนียน
ปอมเมอเรเนียนจัดเป็นสุนัขขนาดเล็ก โดยมีความสูงประมาณ 7-12 นิ้ว และมีน้ำหนักอยู่ที่ 1.3-3.1 กิโลกรัม จึงจัดอยู่ในกลุ่ม Toy Group และมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 12-16 ปี

 

บุคลิกของปอมเมอเรเนียน
สุนัขปอมเมอเรเนียนโดดเด่นที่ความฉลาดและมีชีวิตชีวา สุนัขสายพันธุ์นี้ชอบที่จะพบปะผู้คนใหม่ๆ และชอบที่จะเจอสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ ด้วยเช่นกัน แต่ปอมเมอเรเนียนมักจะคิดว่าตัวเองเป็นน้องหมาตัวใหญ่ (ตัวเล็กแต่ใจกล้ามาก) แถมยังขี้สงสัยแบบสุดๆ จึงเหมาะที่จะให้สุนัขปอมเมอเรเนียนทำหน้าที่เฝ้ายาม

 

มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อนิสัยและอารมณ์ของปอมเมอเรเนียน เช่น พันธุกรรม การฝึก และการเข้าสังคม ลูกหมาปอมที่มีนิสัยที่ดีจะมีความช่างสงสัย ขี้เล่น ชอบที่จะเข้าหาคน และอยู่ด้วย หากคุณจะเลือกปอมเมอเรเนียนซักตัวมาเป็นหนึ่งในสมาชิก ก็ควรเลือกสุนัขตัวที่ยอมนั่งตักคุณแบบเต็มใจ ไม่ใช่สุนัขที่ไล่กัดเพื่อนตัวอื่น หรือขี้อายเสียจนแอบอยู่ที่มุมห้องอยู่ตัวเดียวอย่างเดียวดาย

History and Origins

ประเทศต้นกำเนิด: ไอซ์แลนด์

 

ปอมเมอเรเนียน มาจากจังหวัดปอมเมอเรเนียน ตั้งอยู่ทางชายฝั่งตอนใต้ของทะเลบอลติกในประเทศเยอรมัน ซึ่งที่นี่นิยมเลี้ยงปอมเมอเรเนียนไว้เป็นทั้งสัตว์เลี้ยงและทั้งใช้งาน เพราะเดิมเป็นสุนัขพันธุ์ใหญ่ใช้ลากเลื่อนและเฝ้าฝูงแกะ และเชื่อว่ามีต้นกำเนิดจากสุนัขสายพันธุ์สปิทซ์ สุนัขแถบไอซ์แลนด์และแลปแลนด์ บริเวณตอนเหนือของทวีปยุโรป จึงไม่แปลกที่ปอมเมอเรเนียนจะคล้ายคลึงกับสุนัขพันธุ์สปิทซ์ ทั้งหน้าตา ขนและลักษณะ

 

หลังจากนั้นปอมเมอเรเนียนก็ถูกพัฒนาสายพันธุ์ให้มีขนาดเล็กลงกว่าเดิม เพื่อเอาไว้เป็นสัตว์เลี้ยงเป็นเพื่อนคู่ใจมากกว่าใช้ทำงาน และยิ่งพัฒนาให้เล็กลงเรื่อยๆ จนเหลือตัวเท่าที่เห็นในปัจจุบัน โดยเฉลี่ยจะหนักอยู่ที่ประมาณ 1.3-3.1 กิโลกรัม (อ่านเพิ่มเติมที่ ขนาดของปอมเมอเรเนียน) ซึ่งในราวกลางศตวรรษที่ 19 ยังพบว่าปอมเมอเรเนียนตัวแรกที่เข้ามาในอังกฤษมีน้ำหนักตัวถึง 13.6 กิโลกรัมอีกด้วย ซึ่งนับว่าเป็นสุนัขที่ตัวใหญ่พอสมควร

 

มีคำอธิบายถึงลักษณะปอมเมอเรเนียนในสมัยยุควิกตอเรียตอนปลายว่า ปอมเปอเรเนียนนั้นมีขนยาว หนาออกมาจากลำตัว มีหางที่ม้วนแน่นและค่อนข้างสั้นอยู่ใกล้ด้านหลัง มีหัวเหมือนสุนัขจิ้งจอก ใบหูที่เล็กและตั้งตรง ขาเล็กและลำตัวสั้น คล้ายลูกแมว

 

นอกจากนี้ปอมเมอเรเนียนยังมีรูปหน้าถึง 3 ลักษณะ คือ แบบจิ้งจอก ตุ๊กตาหมี และตุ๊กตาเด็ก แต่หากวัดตามมาตรฐานของสมาคมพัฒนาสายพันธุ์สุนัขแห่งอเมริกา (AKC) ลักษณะหน้าแบบจิ้งจอกเป็นลักษณะที่ถูกต้องที่สุดของสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียน

 

มีเรื่องราวของราชินีวิกตอเรียกับปอมเมอเรเนียน สุนัขตัวโปรดของพระองค์ สุนัขขนฟูตัวเล็กผู้โด่งดังตั้งแต่ในยุควิกตอเรียจนถึงปัจจุบัน เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในฤดูใบไม้ผลิ ค.ศ. 1888 เมื่อพระราชินีวิกตอเรียทรงเสด็จเยือนเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี ในทวีปยุโรป และพระองค์ก็ได้ตกหลุมรักสิ่งหนึ่ง ความน่ารักของจมูกอันน้อยนิดและดวงตาที่ใหญ่ประกายแวววาว ดวงตานั้นได้ขโมยหัวใจของพระองค์ไป มันคือดวงตาของสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียนตัวน้อยตัวหนึ่ง ซึ่งนั่นเป็นการพบกันครั้งแรกระหว่างพระองค์กับสุนัขพันธุ์นี้ หลังจากที่ทรงนำสุนัขพันธุ์นี้กลับมาเลี้ยงปอมเมอเรเนียนก็เริ่มเป็นที่นิยมแพร่หลายในประเทศอังกฤษ

 

พระองค์ทรงโปรดสุนัขพันธุ์นี้มาก แม้กระทั่งวันที่ทรงประชวรบนแท่นพระบรรทมยังทรงให้นำสุนัขปอมเมอเรเนียนเพศเมีย ขนสีขาวตัวโปรดที่ชื่อ Turi มาไว้ข้างพระแท่นบรรทม และเป็นสุนัขที่นอนเฝ้าอยู่ข้างพระวรกายจนพระองค์สิ้นพระชนม์

Nutrition and Feeding

สารอาหารที่จำเป็นสำหรับร่างกายของปอมเมอเรเนียนควรมีสัดส่วนที่เหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย และกิจกรรมในแต่ละวันของสุนัขสายพันธุ์นี้ โดยประกอบไปด้วย

 

  1. โปรตีน : เพื่อสร้างเนื้อเยื่อที่เป็นโครงสร้างหลักของร่างกาย ในอาหารควรมีกรดอะมิโนซึ่งเป็นหน่วยย่อย ของโปรตีนอย่างครบถ้วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรดอะมิโนชนิดที่ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์ขึ้นเองได้
     
  2. คาร์โบไฮเดรต : เพื่อเป็นแหล่งพลังงานในร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเซลล์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เซลล์ประสาท เซลล์หัวใจ และเม็ดเลือดแดง อาหารที่มีคุณภาพดีควรมีการคำนวณปริมาณคาร์โบไฮเดรตอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันการเกิดโรคอ้วนในสุนัข
     
  3. ไขมัน : ช่วยให้พลังงานแก่ร่างกาย โดยให้พลังงานได้สูงกว่าโปรตีนและคาร์โบไฮเดรต นอกจากนี้ไขมันยังช่วยในการดูดซึมวิตามิน อี ดี เอ และเค รวมถึงยังดูแลให้ความอบอุ่น และมีส่วนช่วยในระบบห่อหุ้มร่างกาย เช่น โอเมก้า 3 และ 6 ที่ช่วยบำรุงผิวหนังและขนของสุนัขสายพันธุ์นี้
     
  4. วิตามิน และแร่ธาตุ : แม้ร่างกายจะต้องการวิตามินและแร่ธาตุในปริมาณน้อย แต่หากได้รับไม่เพียงพอหรือได้รับมากเกินไป ก็อาจส่งผลต่อการทำงานของร่างกาย และทำให้ร่างกายเกิดความผิดปกติได้ ตัวอย่างวิตามินและแร่ธาตุที่ร่างกายสุนัขต้องการ ได้แก่ วิตามินบี แคลเซียม ฟอสฟอรัส เป็นต้น

 

นอกเหนือจากสารอาหารหลักที่ควรมีอย่างครบถ้วนตามหลักโภชนาการแล้ว ก็ควรเลือกอาหารที่ผลิตจากวัตถุดิบคุณภาพดี เพื่อเสริมสร้างสุขภาพที่ดีให้กับสุนัขสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียน เลือกอาหารที่เน้นการคัดสรรวัตถุดิบหลักมาจากธรรมชาติปราศจากสีและวัตถุปรุงแต่งกลิ่นรสสังเคราะห์ โดยมีการคำนวนสารอาหารให้มีปริมาณสอดคล้องกับความต้องการของร่างกายสุนัข เพื่อให้สุนัขมีสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก อย่างเช่น SUPERCOAT (ซุปเปอร์โค้ท) สูตรสุนัขโตพันธุ์เล็ก ที่เสริมการทำงานของระบบเผาผลาญในร่างกายสุนัขให้เหมาะกับกิจกรรมในแต่ละวัน และมีความสมดุลกับความต้องการด้านโภชนาการของสุนัขสายพันธุ์เล็กโดยเฉพาะ อร่อยกับรสชาติที่ได้จากวัตถุดิบแท้ๆ จากธรรมชาติ เพิ่มพลังงานด้วยวิตามินบี เพื่อการนำพลังงานไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เม็ดอาหารมีขนาดเหมาะสมช่วยเรื่องระบบการย่อยอาหาร และยังมีโอเมก้า 3 และ 6 ช่วยให้ขนของปอมเมอเรเนียนสวย
เงางามมีสุขภาพดี

 

ความต้องการพิเศษเฉพาะสายพันธุ์ของปอมเมอเรเนียน
ดูแลเรื่องขนของปอมเมอเรเนียนเป็นพิเศษ ด้วยการเลือกอาหารที่มีโอเมก้า 3 และ 6 ที่จะช่วยให้ขนของปอมเมอเรเนียนเงางามและดูมีสุขภาพที่ดี รวมทั้งใส่ใจเรื่องกระดูกและข้อของปอมเมอเรเนียนเป็นพิเศษเพื่อให้ปอมเมอเรเนียนห่างไกลจากปัญหาข้อสะโพกเสื่อม และปัญหาสะบ้าเคลื่อนที่พบได้บ่อยในสุนัขสายพันธุ์นี้ด้วยการเลือกวัสดุที่ปูพื้นบ้านที่ไม่ลื่น หรือเดินเล่นบริเวณที่ไม่เป็นพื้นลื่น ให้ปอมเมอเรเนียนออกกำลังกายวันละ 1-2 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 15 นาที แต่ระวังไม่พาสุนัขไปเดินเล่นในวันที่มีอากาศร้อนจัด เพื่อป้องกันการเกิดโรคลมแดด หรือถ้าให้สุนัขเล่นของเล่นในบ้านก็เลือกของเล่นให้เล่นรับรองว่าถูกใจสุนัขแสนฉลาดอย่างปอมเมอเรเนียนแน่นอน

Other Information

สุขภาพและปัญหาที่มักพบ

 

สุนัขสายพันธุ์นี้จัดเป็นสุนัขที่มีสุขภาพโดยรวมดี แต่ถึงอย่างนั้นปอมเมอเรเนียนก็มีโอกาสเกิดปัญหาสุขภาพได้เหมือนกันกับสุนัขสายพันธุ์อื่น โดยอาจพบโรคเหล่านี้ในสุนัขสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียนได้ - โรคอ้วน : ด้วยความที่เป็นสุนัขขนาดเล็ก หากได้รับปริมาณอาหารที่มากเกินไปอาจทำให้สุนัขเกิดภาวะอ้วนได้ - ภูมิแพ้ : สังเกตได้จากการเลียเท้า อมเท้า คันเกา ไถหน้ากับพื้น หากแสดงอาการเหล่านี้ควรพาไปพบสัตวแพทย์ - เป็นลม : ในสุนัขปอมเมอเรเนียนบางตัวอาจจะพัฒนากลายเป็นโรคลมชักได้ ซึ่งควรเข้ารับการรักษาอย่างเหมาะสม - ปัญหาตา เช่น ตาแห้ง ต้อกระจก และท่อน้ำตาอุดตัน ควรพาสุนัขไปพบสัตวแพทย์เพื่อทำการตรวจตา และรับการรักษาให้เร็วที่สุด เพราะหากทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษาอาจทำให้ตาบอดได้ - ข้อสะโพกเคลื่อน : จะพบท่าเดินที่ผิดปกติ และแสดงอาการเจ็บ หรือลุกนั่งลำบากได้ ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคมีหลายประการ เช่น สายพันธุ์ สิ่งแวดล้อมที่อยู่ (พื้นที่ลื่น) อาหารที่กิน ซึ่งหากเป็นแล้วต้องทำการรักษาด้วยการผ่าตัด - สะบ้าเคลื่อน : เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียน และสร้างความเจ็บปวดให้กับสุนัขที่มีปัญหานี้ ทำให้เกิดอาการขาเจ็บ หรือลักษณะการเดินที่ผิดปกติ โดยสุนัขจะมีการยกขาขึ้นเล็กน้อยขณะเดิน หรือมีการเขย่าขาหรือยืดขาก่อนที่จะกลับมาเดินในท่าปกติ - ปัญหาเหงือกและฟัน : หมั่นพาสุนัขไปตรวจฟันกับสัตวแพทย์เป็นประจำปีละครั้ง และดูแลช่องปากสุนัขด้วยการแปรงฟัน หรือเลือกอาหารที่มีส่วนช่วยในการขัดฟัน

 

สุนัขพันธุ์นี้กับเด็ก

 

โดยปกติสุนัขสายพันธุ์นี้ชอบเล่น และสามารถเล่นกับเด็กๆ ที่ปอมเมอเรเนียนรู้สึกไว้ใจได้ ครอบครัวที่มีเด็กเล็กอยู่ในบ้านสามารถสอนเด็กๆ ให้รู้จักเล่นกับปอมเมอเรเนียนอย่างอ่อนโยน ไม่ดึงขน หู หาง หรือไม่ตีสุนัข เพื่อป้องกันไม่ให้สุนัขกัดเด็กๆ ข่าวดีสำหรับบ้านที่มีแมว เพราะสุนัขสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียน เข้ากันได้ดีมากๆ กับแมว ยิ่งถ้าเลี้ยงมาด้วยกันตั้งแต่เล็กๆ แล้วล่ะก็บอกได้เลยว่าสามัคคีกลมเกลียวกันได้แน่นอน แต่ต้องระวังสำหรับสุนัขตัวใหญ่ เพราะปอมเมอเรเนียนมักคิดว่าตัวโตเท่ากัน อาจจะโดนสุนัขตัวใหญ่กัดเอาได้ วิถีชีวิตสไตล์ปอมเมอเรเนียน ด้วยความที่สุนัขสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียนจัดเป็นสุนัขขนาดเล็ก ดังนั้นเรื่องพื้นที่ในการเลี้ยงจึงไม่ใช่ปัญหา เพราะสามารถเลี้ยงน้องหมาปอมได้ในพื้นที่จำกัด เช่น อะพาร์ตเมนต์หรือคอนโด (ที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์) ได้ แต่อาจต้องระวังเรื่องการเห่าที่อาจสร้างความกังวลใจให้กับผู้ที่อยู่อาศัยห้องอื่นๆ และถ้าอยากจะพาปอมเมอเรเนียนออกไปเที่ยวที่ไหน ก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะเพียงแค่เลือกสถานที่ที่มีร่ม อากาศไม่ร้อนจัด เตรียมน้ำ อาหาร สายจูง และอุปกรณ์ทำความสะอาดไป ปอมเมอเรเนียนก็พร้อมที่จะไปกับเจ้าของได้ทุกที่แล้ว ผู้เลี้ยงที่เหมาะกับน้องหมาปอมเมอเรเนียน ด้วยนิสัยรักเจ้าของ ขี้ประจบ ปอมเมอเรเนียนจึงเหมาะกับเจ้าของที่มีเวลาดูแลหัวใจสุนัขบ้าง มีเวลาเล่นด้วยกันสักหน่อย แต่ที่สำคัญคือต้องมีเวลาในการดูแลแปรงขน แปรงฟัน ให้กับปอมเมอเรเนียนอย่างสม่ำเสมอ หากใครมีบ้านอยู่ในอะพาร์ตเมนต์ (ที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้) แต่อยากเลี้ยงสุนัขสักตัว ปอมเมอเรเนียนเป็นสุนัขที่เหมาะกับคุณไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะปอมเมอเรเนียนไม่ต้องการสนามหญ้ากว้างๆ หรือพื้นที่ใหญ่ๆ ด้วยขนาดตัวแสนกะทัดรัด แต่ถ้าบ้านไหนที่มีเด็กเล็กๆ อาศัยอยู่ด้วยก็อาจจะไม่เหมาะนัก รอให้เด็กๆ โตอีกสักหน่อย รับรองว่าปอมเมอเรเนียนจะเป็นเพื่อที่ดีกับทุกคนในครอบครัวได้อย่างแน่นอน