- แมวขี้เล่นขี้สงสัย
- เข้ากับคนง่ายและต้องการการดูแล
- แมวพูดเก่งเล็กน้อย
- รูปร่างผอมเพรียวและสง่างาม
- ต้องดูแล/ตัดขนสัปดาห์ละครั้ง
- สายพันธุ์ที่ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้
- ต้องการพื้นที่นอกบ้านบ้าง
- แมวที่เหมาะกับเลี้ยงในครอบครัว
ข้อมูลสำคัญ
อายุเฉลี่ย : | 10-16 ปี |
น้ำหนัก : | 3.6-7.7 กิโลกรัม |
สีขน : | แมวเบงกอล มาพร้อมลวดลายคล้ายหินอ่อนและลายจุด สี brown, silver, snow |
คะแนนรวม
ความเป็นมิตรกับครอบครัว : | 1/5 |
ความขี้เล่น : | 5/5 |
ความฉลาดแสนรู้ : | 5/5 |
ระดับการส่งเสียง : | 2/5 |
ความเข้ากันได้ดีกับสัตว์เลี้ยงอื่น : | 5/5 |
ความต้องการการดูแลขน : | 2/5 |
การผลัดขน : | 2/5 |
ลักษณะนิสัย
แมวเบงกอลสามารถเป็นสัตว์เลี้ยงชั้นเลิศได้ เมื่อได้อยู่กับเจ้าของผู้มีประสบการณ์การเลี้ยง แต่คงจะเข้ากันได้ดียิ่งกว่า หากคุณเจ้าของเป็นคนที่ชื่นชอบน้องแมวที่มีความเป็นสุนัข คือมีความแอคทีฟและช่างสงสัย เจ้าแมวเบงกอลสามารถสนุกได้กับทุกสิ่งไม่ว่าจะเป็นของเล่น เกม หรืออุปกรณ์เสริมทักษะ ซึ่งถ้าคุณต้องการน้องแมวที่นอนดูของเล่นหรือของตกแต่งเฉย ๆ แมวเบงกอลก็คงไม่ใช่คำตอบสำหรับคุณแล้วแหละ ! เพราะแมวพันธุ์นี้สนุกไปกับทุกอย่าง แม้แต่สิ่งที่ดูเรียบง่ายที่สุด อย่างการเปิดน้ำให้ไหลไปเรื่อย ๆ ก็สร้างความบันเทิงให้กับแมวเบงกอลได้แล้ว (ระวังไว้ล่ะ เจ้าแมวพวกนี้อาจจะแอบจ้องแก้วน้ำของคุณอยู่ !)
นอกจากนี้แมวเบงกอลยังชอบเล่นกับคน เรียกได้ว่าเล่นด้วยกันได้เป็นชั่วโมง ๆ เลย ถ้าคุณต้องการ (หรือถ้าไม่ ก็ยังเล่นอยู่ดีแหละนะ) และขอบอกไว้เลยว่าแมวแบงกอลไม่ใช่แมวนอนตัก เพราะเป็นแมวที่ไม่ค่อยว่าง ต้องการจะเล่น จะให้มานอนเฉย ๆ บนตักนาน ๆ ก็คงจะไม่ได้ และโดยทั่วไปแมวเบงกอลก็ไม่ใช่แมวที่เสียงดังหรอก แต่ถ้าคุณเจ้าของไม่สนใจหรือน้องแมวไปเจออะไรที่ไม่ได้ดั่งใจ ก็อาจจะวีนเสียงดังขึ้นมาได้เหมือนกัน
ประวัติความเป็นมา
แมวเบงกอลค่อนข้างเป็นแมวยุคใหม่ ถูกพัฒนาสายพันธุ์มาในช่วงปี 1990s ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเกิดจากการผสมระหว่างแมวดาวสายพันธุ์เอเชีย (Asian Leopard Cat, Prionailurus bengalensis; แมวป่าขนาดเล็ก มีลักษณะเป็นลายพาด มาจากเอเชียตะวันตกเฉียงใต้) กับแมวบ้านลายแท็บบี้ และแมวขนสั้นพันธุ์อื่น เช่น อะบิสซิเนียน, เบอร์มีส และอียิปต์เทียน โม โดยวัตถุประสงค์ตั้งต้นของการพัฒนาสายพันธุ์นี้คือ การสร้างแมวเลี้ยงนิสัยน่ารักที่มีหน้าตาคล้ายเสือดาวขนาดเล็ก เพื่อเป็นทางเลือกไม่ให้คนเอาแมวป่ามาเลี้ยง
นอกจากนี้คือเรื่องมุมมองการเลี้ยงของเจ้าของ ถ้าเป็นเจ้าของมีมุมมองการเลี้ยงที่ดีควรบันทึก “F number” ซึ่งเป็นเลขที่บอกรุ่นของแมวแต่ละตัวเอาไว้ โดยลูกรุ่นแรกที่เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์จะได้เลข F1 (หมายถึงลูกของแมวป่าผสมกับแมวบ้าน) ซึ่งในอังกฤษ ถือว่ายังเป็นรุ่นที่ต้องขอใบอนุญาตเลี้ยงสัตว์ป่าอันตราย แต่ถ้าเป็นรุ่น F2 เป็นต้นไปก็สามารถเลี้ยงได้โดยไม่ต้องขอใบอนุญาตแล้ว