
เป็นสุนัขที่ไม่ว่าใครก็จะต้องตกหลุมรักไปกับความฉลาดแสนรู้ ความซื่อสัตว์ และความอ่อนโยน อันเป็นนิสัยประจำพันธุ์ของสุนัขพันธุ์นี้ อีกทั้งยังเป็นมิตรกับผู้คนทุกเพศทุกวัย ทำให้สุนัขพันธุ์นี้สามารถมัดใจเหล่าสมาชิกในบ้าน ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ได้ไม่ยาก
ใครก็ตามที่ตามหาเพื่อนคู่ใจผู้น่ารักและเป็นมิตร เจ้าซามอยด์นี่แหละคือคำตอบ และคงจะดี ถ้าหากมนุษย์เพื่อนคู่ใจของเจ้าซามอยด์ เป็นสายติดบ้านเหมือนกัน ชอบอากาศเย็นเหมือน ๆ กัน และไม่ถือสาเรื่องขนสีขาวของซามอยด์ที่จะติดตามไปทุกที่ทั่วบ้านทั่วตัว
The need-to-know
- สุนัขเหมาะสำหรับเจ้าของที่้เคยเลี้ยงสุนัขมาบ้าง
- ต้องฝึก
- ชอบเดินเป็นประจำ
- ชอบเดินมากกว่า 2 ชั่วโมงต่อวัน
- สุนัขขนาดกลาง
- น้ำลายไหลได้บ้าง
- ต้องดูแล/ตัดขนสุนัขทุกวัน
- สายพันธุ์ที่ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้
- สุนัขช่างพูดและช่างเห่า
- สุนัขเฝ้าบ้าน ต้องเห่า เตือน และปกป้องเจ้าของได้
- อาจต้องฝึกให้อยู่ร่วมกับสัตว์เลี้ยงตัวอื่น
- สุนัขครอบครัวที่ดี
บุคลิกภาพ
สุนัขพันธุ์ซามอยด์มาพร้อมกับหน้าตาที่ไม่ว่าใครเห็นก็ต้องตกหลุมรัก เป็นหนึ่งในสุนัขกลุ่ม spitz ขนาดกลาง-ใหญ่ คือมีลักษณะหูตั้งชี้ มีหางม้วนเป็นวงโค้งมาทางด้านหลัง และถ้าพูดถึงขน อันเป็นจุดเด่นของสุนัขพันธุ์นี้ คือจะมีขนหนา ชนิดที่ว่าอยู่ในสภาพอากาศหนาวได้สบาย ๆ บวกกับรูปเท้าที่เป็นทรงแบน มีขนเท้าอัดแน่น จนดูคล้ายว่าเป็นรองเท้าลุยหิมะ ทำให้หิมะไม่สามารถซอกซอนตามซอกนิ้วของสุนัขพันธุ์นี้ได้เลย และสุดท้ายที่เป็นลักษณะเด่นอีกอย่างหนึ่งเลยคือ สี สุนัขพันธุ์นี้จะมีอยู่ 3 สีด้วยกัน ได้แก่ สี white, white and biscuit และ cream white ทำให้มีภาพลักษณ์ที่ดูสะอาดและเรียบร้อย
นิสัยโดยทั่วไปของสุนัขพันธุ์ซามอยด์คือ น่ารักเป็นมิตร เข้ากับผู้อื่นได้ง่าย และรักเจ้าของมาก อีกทั้งยังสามารถปกป้องบ้านจากผู้บุกรุกได้ ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ค่อยทำอะไรอย่างอื่นนอกจากการส่งเสียงเตือนสมาชิกในบ้านก็ตาม สุนัขพันธุ์นี้ชอบที่จะมีส่วนร่วมกับทุกกิจกรรมครอบครัว
โดยถ้าหากถูกปล่อยให้อยู่คนเดียวนานเกินไปหรือรู้สึกเบื่อ ก็อาจจะทำลายข้าวของหรือส่งเสียงร้องก็เป็นได้ ซึ่งนอกจากจะเป็นนักร้องยามเบื่อแล้ว ยังเป็นนักขุดสวนและจอมหลบหนีอีกด้วย สวนหลังบ้านที่ปลอดภัย มีรั้วรอบขอบชิด จึงเป็นสิ่งที่ขาดไปไม่ได้เลย ยิ่งไปกว่านั้นคือหากที่บ้านมีสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นอยู่ด้วย ก็ควรที่จะแนะนำให้รู้จักกันตั้งแต่ยังเด็ก ๆ เพื่อที่จะได้เข้ากันได้ดียิ่งขึ้น
ประวัติและต้นกำเนิด
เป็นที่รู้จักกันดีในนาม “หมาหน้ายิ้ม” และ “สุนัขต้อนเรนเดียร์” ในสมัยโบราณ สุนัขพันธุ์ซามอยด์ทำหน้าที่เป็นสุนัขต้อนฝูงเรนเดียร์ โดยได้ชื่อ “ซามอยด์” มาจากชนเผ่าที่สุนัขพันธุ์นี้ได้ร่วมช่วยงานเคียงบ่าเคียงไหล่กันมา คือชาวซามอยด์แห่งไซบีเรียตอนเหนือ
ถึงแม้ว่าโดยส่วนใหญ่จะได้ทำหน้าที่เป็นสุนัขต้อนฝูงสัตว์ แต่แท้จริงแล้วเจ้าสุนัขพันธุ์ซามอยด์ทำอะไรได้มากกว่าที่คิด ทั้งลากเลื่อน ต้อนฝูงสัตว์ปศุสัตว์ และในบางครั้งยังได้ใช้ขนจากสุนัขพันธุ์นี้เพื่อทำเป็นเครื่องนุ่งห่ม สร้างความอบอุ่นเมื่อยามตกอยู่ในสภาพอากาศอันโหดร้าย
สุนัขพันธุ์นี้ใช้ชีวิตอยู่ใกล้ชิดกับคนในชนเผ่าอย่างมาก เรียกได้ว่าได้ใช้ห้องนอนร่วมกับผู้คนในชนเผ่าเลยทีเดียว เพราะเช่นนี้เลยได้อยู่ตัวติดกับผู้คนตลอดเวลา เป็นทั้ง “เพื่อนคู่ใจ” รวมไปถึง “ถุงอุ่น” ของคนในสมัยนั้น จนในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 สุนัขพันธุ์ซามอยด์ก็ได้ไปจุดประกายความสนใจของนักสำรวจเข้า ทั้งในด้านพละกำลังและความอึด เฉกเช่นเดียวกันกับในสุนัขกลุ่ม working dogs จึงได้ทำงานในฐานะสุนัขลากเลื่อนในช่วงต้นของการสำรวจขั้วโลก และเมื่อจบภารกิจก็ได้ติดตามคณะนักสำรวจกลับมายังประเทศอังกฤษ ด้วยลักษณะที่ดูสวยงามและความร่าเริงของสุนัขพันธุ์นี้ จึงได้รับความสนใจและความนิยมจากผู้คนได้ไม่ยาก และความนิยมนั้นก็ยังคงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน รวมถึงเฉดสีขนที่มีเพียงสีขาวบริสุทธิ์และซามอยด์สีขาวในเฉดต่าง ๆ ก็ยังคงถูกสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน
โภชนาการและการให้อาหาร
เมื่อตัวใหญ่ก็ต้องกินเยอะไปตามขนาดตัว เลยอาจได้สารอาหารหลากหลายจากปริมาณที่กินมากกว่าเมื่อเทียบกับสุนัขพันธุ์เล็ก แต่อย่างไรก็ดีซามอยด์เป็นสุนัขที่อาจมีปัญหาเกี่ยวกับการย่อยอาหารหรือท้องอืดได้ง่าย ซึ่งแก้ไขได้ด้วยการแบ่งมื้ออาหารเป็นมื้อเล็ก ๆ แต่ให้บ่อย ๆ ก็จะช่วยป้องกันปัญหานี้ได้ ทั้งนี้การดูแลเรื่องอาหารและโภชนาการอย่างเหมาะสมจะสามารถยืดอายุสุนัขให้ยาวนานไปได้ถึง 13 ปีเลย
การออกกำลังกาย
สุนัขพันธุ์ซามอยด์มีความต้องการการออกกำลังกายในระดับที่เหมาะสม โดยทำได้ทั้งแบบมีคนนำและแบบไม่มีคนนำ ซึ่งโดยธรรมชาติของตัวสุนัขแล้วก็ชอบที่จะเป็นฝ่ายนำ แต่ก็สามารถฝึกแบบให้เดินไปข้าง ๆ กัน หรือจะใช้สายจูงแบบครอบปาก (headcollar) ร่วมด้วยก็ได้ สุนัขพันธุ์ซามอยด์ที่โตเต็มวัยจะต้องการการออกกำลังกายเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงต่อวันเท่านั้น แต่ถึงอย่างไรก็ดีก็ต้องระวังเรื่องความร้อนด้วย หากจะพาสุนัขไปออกกำลังกาย เพราะด้วยขนที่หนาจึงมีโอกาสเก็บความร้อนได้มากกว่าปกติ ดังนั้นการออกกำลังกายในช่วงเช้าที่อากาศเย็นก็คงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
เจ้าของในอุดมคติ
เจ้าของในอุดมคติของสุนัขพันธุ์ซามอยด์ คือเจ้าของที่มีความคุ้นเคยกับสุนัขกลุ่ม spitz รวมถึงมีความเข้าใจในนิสัยและพฤติกรรมของสุนัขต้อนฝูงสัตว์ และรู้ว่าจะต้องฝึกสุนัขเหล่านี้อย่างไร ความเข้าใจเรื่องขนของสุนัขพันธุ์นี้ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะจะต้องเจอกับเส้นขนที่จะกระจายไปครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วบ้านและทั่วตัวเจ้าของอย่างแน่นอน เรียกได้ว่าเวลาคุณเจ้าของจะอาบน้ำ คงต้องใช้เครื่องดูดฝุ่นอาบน้ำเป็นขั้นตอนแรกเลยทีเดียว นอกจากนี้เลยคือเรื่องการอาบน้ำสุนัขที่อาจจะต้องอุทิศเวลาให้กับการอาบน้ำทั้งวัน รวมถึงแต่ละวันของสุนัขพันธุ์นี้สามารถใช้เวลาเดินเล่นได้เป็นชั่วโมง ๆ ชอบอยู่บ้านเย็น ๆ ชอบขุดสุด ๆ และในบางครั้งก็ชอบส่งเสียงร้อง ดังนั้นการอยู่ในแถบพื้นที่ที่ค่อนข้างห่างจากตัวเมือง ไม่พลุกพล่าน และมีพื้นที่มาก คงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกับการเลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้
ข้อมูลอื่นๆ
ประวัติความเป็นมา
เป็นที่รู้จักกันดีในนาม “หมาหน้ายิ้ม” และ “สุนัขต้อนเรนเดียร์” ในสมัยโบราณ สุนัขพันธุ์ซามอยด์ทำหน้าที่เป็นสุนัขต้อนฝูงเรนเดียร์ โดยได้ชื่อ “ซามอยด์” มาจากชนเผ่าที่สุนัขพันธุ์นี้ได้ร่วมช่วยงานเคียงบ่าเคียงไหล่กันมา คือชาวซามอยด์แห่งไซบีเรียตอนเหนือถึงแม้ว่าโดยส่วนใหญ่จะได้ทำหน้าที่เป็นสุนัขต้อนฝูงสัตว์ แต่แท้จริงแล้วเจ้าสุนัขพันธุ์ซามอยด์ทำอะไรได้มากกว่าที่คิด ทั้งลากเลื่อน ต้อนฝูงสัตว์ปศุสัตว์ และในบางครั้งยังได้ใช้ขนจากสุนัขพันธุ์นี้เพื่อทำเป็นเครื่องนุ่งห่ม สร้างความอบอุ่นเมื่อยามตกอยู่ในสภาพอากาศอันโหดร้าย
การฝึกสุนัข
สุนัขพันธุ์ซามอยด์คงไม่ได้เป็นที่สุดในด้านความเชื่อง และคลาสฝึกความเรียบร้อยก็คงไม่ใช่คลาสที่เจ้าซามอยด์จะสอบได้ที่ 1 เช่นกัน แต่ในทางกลับกัน สิ่งที่เจ้าซามอยด์ชอบที่สุดคือการวิ่ง ถ้าคุณสามารถหาครูฝึกที่มีความเชี่ยวชาญด้านการฝึกสุนัขวิ่ง โดยเฉพาะการวิ่งแบบ Canicross เคียงคู่ไปกับเจ้าของ เจ้าซามอยด์คงจะแฮปปี้แบบสุด ๆ แต่ถ้าหาไม่ได้ก็ไม่เป็นไรเลย เพราะแค่ฝึกให้คุ้นชินกับการวิ่งแบบมีสายจูงและฝึกให้ไม่กระชากสายจูง เท่านี้ก็เพียงพอกับสุนัขพันธุ์นี้แล้ว เพราะสุดท้ายแล้วไม่ว่ายังไง เจ้าซามอยด์ก็เกิดมาเพื่อวิ่ง !
ซามอยด์และการเป็นสมาชิกครอบครัว
อย่างที่ได้กล่างไปข้างต้น ไม่ว่าเจ้าซามอยด์จะไปอยู่ในครอบครัวไหน ก็จะได้เป็นที่รักเสมอ เพราะความใส่ใจและมีความสุขในทุกกิจกรรมครอบครัว รวมถึงยังมีความอดทนอีกด้วย ถึงแม้ว่าจะเป็นสุนัขที่ได้ชื่อว่าเป็นมิตรกับเด็ก แต่ทั้งเด็กและสุนัขก็ควรได้รับการสอนให้ให้เกียรติซึ่งกันและกัน รวมถึงวิธีเล่นกันอย่างปลอดภัย ซึ่งอย่างไรก็ดีไม่ว่าจะกรณีไหนก็ไม่ควรทิ้งเด็กกับสุนัขไว้เพียงลำพัง ควรมีผู้ใหญ่จับตาดูอยู่เสมอ
Fun facts
- สุนัขพันธุ์ซามอยด์ได้ชื่อมาจากชาวซามอยด์ ชนเผ่าทางตอนเหนือของไซบีเรีย ที่เลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้ไว้เป็นสุนัขต้อนฝูงเรนเดียร์ โดยเจ้าซามอยด์ได้ถูกเพาะพันธุ์มาให้มีขนสีขาว ฟูฟ่อง เป็นหมาหน้ายิ้มที่คอยทำงานคุมฝูงสัตว์ ลากเลื่อน และยังมอบความอบอุ่นให้กับผู้คนเมื่อยอมนอนหลับด้วย
- ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ซามอยด์เป็นสุนัขอาร์คติกที่ถูกหาซื้อได้ง่ายที่สุด โดยในขณะนั้นเจ้าซามอยด์ก็ได้ปฏิบัติงานในภารกิจสำรวจขั้วโลก ในฐานะสุนัขลากเลื่อน
- จากข้อมูล DNA พบว่าสุนัขพันธุ์ซามอยด์ เป็นหนึ่งในพันธุ์สุนัขที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
- ซามอยด์มีความสามารถในการร้องเพลง ถึงแม้ว่าจะไม่ใช้การร้องแบบที่เราคุ้นเคยก็ตามที เสียงจะออกไปทางการหอนมากกว่า แต่ก็มีเจ้าของบางคนเคยเห็นซามอยด์ของตัวเองร้องเพลงไปตามทำนองอยู่เหมือนกัน